“คุณบอมบ์” สถาปนิกนักธุรกิจ กับการสร้างอาณาจักรร้านอาหาร-บาร์-ร้านขนมในเมลเบิร์น
Image Supplied
เมื่อพูดถึงการทำธุรกิจในต่างประเทศ หลายคนอาจนึกถึงความยุ่งยากและอุปสรรคมากมาย แต่บทสัมภาษณ์นี้จะพาคุณไปสำรวจเส้นทางของ ‘คุณบอมบ์’ นักธุรกิจคนหนึ่งที่เริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ในกลุ่มคนรอบตัว และค่อย ๆ ขยับขยายจนกลายเป็นอาณาจักรธุรกิจที่ครอบคลุมหลากหลายบริการ ตั้งแต่สิ่งของจำเป็น ร้านแลกเงิน ไปจนถึงร้านอาหารและบาร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยในออสเตรเลีย
1.ก่อนอื่นเลย ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยครับ ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง
ชื่อบอมบ์ครับ ผมใช้ชีวิตอยู่ที่ซิดนีย์มา 20 กว่าปี ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่เมลเบิร์นได้ปีกว่า ๆ แล้ว เริ่มต้นจากมาทำร้าน Khao Soi สาขาสองที่เมลเบิร์น แล้วเห็นโอกาสในธุรกิจด้าน Hospitality ที่นี่ ซึ่งมีลู่ทางประกอบธุรกิจที่น่าสนใจ
จากร้านอาหาร ผมก็เริ่มขยายไปทำธุรกิจอื่นๆ เช่น ร้าน Sampheng (สำเพ็ง) ที่ขายของกระจุกกระจิก, ร้านโอนเงิน Xwing, ร้านขนมชื่อ Kanomwan, ร้านอาหารกึ่งบาร์ Mamao และธุรกิจเอเจนซี่พาคนไปศัลยกรรมที่เกาหลีครับ
2.จากที่เล่าว่ามาจากซิดนีย์ แล้วตัดสินใจย้ายมาเมลเบิร์นเต็มตัว จุดเปลี่ยนสำคัญคืออะไรครับ
เวลาทำธุรกิจ เราต้องให้เวลากับมัน ช่วงแรก ๆ ที่สำรวจโลเคชั่นจะบินไปบินมาระหว่างซิดนีย์กับเมลเบิร์น พอมาบ่อยเข้า เลยเช่าบ้านอยู่ที่เมลเบิร์น ตอนแรกกะจะอยู่ชั่วคราว แต่พอเปิด Khao Soi แล้วตามด้วย Sampheng, Xwing กับ Kanom Wan ก็เลยตัดสินใจย้ายมาอยู่เมลเบิร์นแบบถาวรเลยครับ
Image supplied
3.ร้าน “มาเมา” เริ่มต้นยังไงครับ จุดเริ่มต้นของการเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์เกิดจากอะไร
จริง ๆ มาเมาเริ่มมาจากน้อง ๆ สองคน คือ เต้กับฌอง เป็นวัยรุ่นไฟแรงที่เปิดร้านมาตั้งแต่ปี 2023 ตอนที่ผมย้ายมาเมลเบิร์นในปี 2024 นั้นผมสนใจอยากเปิดธุรกิจร้านเหล้าอยู่แล้ว พอได้มีโอกาสพูดคุยกับเต้กับฌอง จึงเลือกที่จะร่วมทีมทำด้วยกันกับน้อง ๆ ดีกว่า เพราะเราก็มีประสบการณ์ทำร้านอาหารมาอยู่แล้ว สามารถเอาประสบการณ์มาแชร์กันได้ ก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมเข้าไปถือหุ้นบางส่วนครับ
4.ความพิเศษของร้าน “มาเมา” ที่แตกต่างจากร้านนั่งดื่มทั่วไปในเมลเบิร์นคืออะไรครับ
แม้มาเมาจะไม่ใช่ร้านเหล้าร้านแรกของเมลเบิร์น แต่เราศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคจนรู้ว่า เมลเบิร์นยังขาดร้านแนวนั่งชิล มีดนตรี มีอาหารแบบไทยแท้ ๆ เช่น ส้มตำ ปลาทอด ไก่ย่าง เนื้อย่าง ซึ่งอารมณ์มันเหมือนร้านเหล้าที่เมืองไทยเลย
ตอนหลังเราขยายเพิ่มเป็น “มาเมาคลับ” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ได้อยากนั่งกิน แต่อยากมาเต้น มาเมาจริง ๆ ตามชื่อเลยครับ
5.เคยทำงานเป็นสถาปนิกมาก่อน ทุกวันนี้ยังได้ใช้ทักษะนี้กับธุรกิจอยู่ไหมครับ
ได้ใช้เต็มที่เลยครับ ทุกร้านที่ผมทำตั้งแต่เริ่มต้น ผมออกแบบเองหมดเลย เพราะพื้นฐานเราเป็นสถาปนิกมาก่อน เราก็ชอบออกแบบไง แต่ร้านมาเมาที่เรามาจอยทีหลัง ก็เลยไม่ได้เป็นคนออกแบบครับ
Image Supplied
6. ต้องดูแลหลายธุรกิจและยังทำงานฟรีแลนซ์ควบคู่ไปด้วย คุณบอมบ์ให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุดครับ
เป็นคำถามที่ดีนะ สิ่งสำคัญคือการจัดการเวลาครับ เป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญมาตลอด เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าสามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้เลย สมัยเป็นเด็กบ้านผมจนมาก จะทำอะไรก็ไม่สามารถทำได้อย่างคนอื่นเขา เราไม่สามารถซื้อของฟุ่มเฟือยได้ ทีนี้พอเรามีลูก เราก็ไม่อยากให้ลูกต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเราสมัยก่อน อะไรที่เราไม่เคยมี เราก็อยากให้เค้ามี ดังนั้นเราต้องจัดสรรเวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา
หลังจากที่เราได้เริ่มรู้จักพี่ ๆ ที่เราเคารพหลาย ๆ ท่าน ทำให้เราได้รู้ว่า คนทุกคนบนโลกนี้มีสิ่งหนึ่งที่เท่ากันหมดไม่ว่าจะรวยหรือจน นั่นคือเวลา หากเราบริหารเวลาได้อย่างดี นั่นก็น่าจะมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้
จัดการบริหารเวลา ให้เวลาเป็นตัวทำเงิน ไม่ใช่เราลงไปทำเงินกับมันเอง ถ้าให้ขยายความสั้น ๆ ก็คือ ต่อให้ตัวเราไม่อยู่ จะไปเที่ยวหรือทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่ก็จะมีทีมงานหรือสิ่งที่ทำเงินให้เราอยู่ ดังนั้นสิ่งที่จะเข้ามาช่วยจัดการตรงนี้คือระบบ
วิธีการบริหารจัดการของผม คือการใช้ระบบเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ให้ไม่ต้องลงมือทำเองทุกอย่าง
Image supplied
7.พอพูดถึงเรื่องระบบในการบริหารธุรกิจ อยากให้เล่าหน่อยครับว่าแนวทางของพี่บอมบ์คืออะไร
เราใช้ระบบเป็นตัวจัดการ เช่นร้าน Khao Soi ผมเซ็ตระบบมาทั้งหมด ไม่ว่าจะมีพนักงานคนไหนออก ก็หาคนมาแทนได้ทันที เพราะระบบเป็นตัวขับเคลื่อน ไม่ใช่ตัวบุคคล แต่ละร้านจะมีระบบที่แตกต่างกันตามประเภทของธุรกิจ วิธีจัดการบริหารก็จะไม่เหมือนกัน
8.เคยเจอสถานการณ์ที่จัดการยากไหมครับ สำหรับคนที่เปิดร้านเหล้า
คือต้องบอกว่าที่ออสเนี่ย ตามกฎหมายเราไม่สามารถเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนคนเมาได้ ถ้าเรื่องพีค ๆ ฮา ๆ น่าจะเป็นบางคนที่พอเริ่มใกล้เมาก็ไปทะเลาะกับการ์ดก็มี เสร็จแล้วก็ชวนกันไปตีหน้าร้าน ดังนั้นบางคนที่ดูเริ่มเมามาก ๆ เราก็จะเชิญออกจากร้าน ถ้ามาคนเดียวเราก็จะส่งเค้าขึ้นรถกลับบ้านให้เรียบร้อยเลย เพราะเราถือเป็นความรับผิดชอบของร้าน ต้องดูแลเค้าให้กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีเหตุการณ์ตีกันในร้านเท่าไร เพราะเรื่องกฎหมายด้วย บวกกับเรามีกล้องวงจรปิด ถ้ามีปัญหาอะไรเราก็ส่งวิดีโอให้ตำรวจดูเลยครับ
9.มองย้อนกลับไป จุดที่ท้าทายในการทำธุรกิจของคุณบอมบ์คืออะไรครับ
ความท้าทายแรกเลยเราเรียนสถาปัตย์มา จะมาทำธุรกิจหรอ จะไปรอดหรอ ทำยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเวลาเราทำธุรกิจเราก็ต้องอยากสำเร็จใช่มั้ยล่ะ แต่จริง ๆ ผมคิดว่าให้โฟกัสว่า เราทำไปเพื่ออะไรมากกว่า … จะยึดเป็นอาชีพหลัก, หรือ ทำเป็นรายได้เสริม, หรือ กะเอารวยกันไปเลย … การทำธุรกิจ จะได้ชัดเจน และมีเป้าหมาย
อย่างตอนทำธุรกิจศัยกรรมเกาหลี จุดเริ่มต้นมาจากคนข้างตัวต้องการทำศัยกรรมที่ใช้เงินค่อนข้างสูง และเราก็ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ทีนี้เราก็อยากได้ส่วนลด จนมีเพื่อนมาแนะนำว่า ให้ไปสมัครสอบเป็นเอเจนท์เองเลยสิ ได้ส่วนลด 30% เลยนะ ซึ่งเราจากคนที่ไม่เคยมีความรู้เรื่องศัลยกรรมเลย บวกกับไม่เคยรู้ภาษาเกาหลีมาก่อนด้วย แต่ด้วยส่วนลดที่ดึงดูดมาก ผมเลยเริ่มต้นไปลงเรียนภาษาเกาหลี และไปสอบจนได้เป็นตัวแทน สามารถพาผู้ที่สนใจไปทำศัยกรรมที่เกาหลีได้
หรืออย่างความท้าทายของมาเมา น่าจะเป็นเรื่องความแตกต่างของตลาด อย่างตอนแรก ๆ คือ ผับกึ่งร้านอาหาร ที่มีดนตรีสด เต้กับฌองที่เป็นหุ้นส่วนหลัก เค้าก็เริ่มต้นจากไม่มีอะไรมาก่อนเหมือนกัน ลองผิดลองถูกทำร้านขึ้นมา เราก็จะมาช่วยในส่วนของการแชร์เรื่องประสบการณ์ที่ทำร้านอาหารมาก่อน ควรจะทำยังไงให้มีกำไรที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องของการตลาด เรื่องดนตรีก็จะเป็นหน้าที่ของน้องสองคนที่แบ่งกันไป
พฤติกรรมผู้บริโภคจะเป็นการโหยหาการหาร้านนั่งดื่ม นั่งชิว ฟังดนตรี เราก็ต้องตอบให้ตรงโจทย์ตรงนั้น
Image supplied
10. ถ้าใครกำลังคิดจะเปิดร้านอาหารกึ่งบาร์ในออสเตรเลีย คุณบอมบ์มีคำแนะนำอะไรบ้างครับ
ข้อควรระวังและควรศึกษาเป็นพิเศษเลยเนี่ยคือเรื่อง กฎหมาย เพราะมันมีหลายส่วน อันดับแรกถ้าเป็นเรื่องของร้านอาหาร ก็ต้องยื่นขอใบอนุญาตที่ถูกต้อง แต่ละรัฐก็มีกฎที่แตกต่างกัน ต้องศึกษาให้ดี แล้วยิ่งถ้าเป็นเรื่องของแอลกอฮอล์ มันจะมีเรื่องของ Liquor Licence ซึ่งก็จะแบ่งแยกตามประเภทของร้านอีก เช่น On-premises licence (สำหรับร้านอาหาร คาเฟ่), Hotel licence (สำหรับผับหรือโรงแรม), Club licence (สำหรับคลับ) หรือ Small bar licence(สำหรับบาร์ขนาดเล็ก) ดังนั้นเราต้องเลือกความชัดเจนของตัวตนธุรกิจเราก่อนว่าเราจะไปแบบไหน แล้วจึงเลือกยื่นให้ถูกต้อง ซึ่งมันก็จะไปเชื่อมโยงกับ business plan เพราะแต่ละใบอนุญาตก็ใช้เวลาไม่เท่ากัน ดังนั้นทุกอย่างมันจึงต้องคิดและวางแผนให้เสร็จตั้งแต่แรกเลย
ทุกอย่างมันขอเองได้หมดเลยนะพวกใบอนุญาต แต่อาจต้องใช้เวลาหน่อย ถ้าเราไม่มั่นใจก็ไปใช้บริการพวกบริษัทที่เค้าเป็นมืออาชีพมาช่วยดูแลก็ได้
11. ตอนนี้มาเมามีถึง 2 สาขาแล้ว มองอนาคตของแบรนด์นี้ไว้อย่างไรบ้างครับ
ตอนนี้เรามีการปรับกลยุทธ์การวางตัวตนของเราใหม่ เป็นการแบ่งคาแรกเตอร์ของมาเมาทั้งสองที่อย่างชัดเจน อย่างมาเมาสาขาแรก เราก็จะไม่ได้เน้น late night แล้ว ตัวตนจะเป็นร้านอาหาร ที่มีดนตรีเบา ๆ แล้วเราผลักลูกค้าที่เป็นกลุ่ม late night ไปที่มาเมาคลับแทน
กลุ่มตลาดตอนนี้เราไม่ได้เน้นแค่ตลาดคนไทยแล้ว เราขยายฐานลูกค้าไปที่ตลาดคนจีนด้วย ซึ่งกำลังไปได้ด้วยดีเลย
12. สุดท้าย มีโปรเจคอะไรใหม่ๆ ที่อยากให้ทุกคนติดตามกันไหมครับ
กำลังจะมีร้านชื่อว่า ณ เชียงใหม่ เร็ว ๆ นี้ที่เมลเบิร์น ซึ่งเป็นรูปแบบที่เวลานี้ยังไม่มีใครทำในเมลเบิร์น CBD
ทั้งรูปแบบของอาหาร ที่จะมีจุดเด่นชัดเจน, การนำเสนอช่วงเวลาให้บริการตั้งแต่เช้าจนดึก, บรรยากาศชิวๆของร้าน, และ ทีมงานน่ารักๆ อันนี้ฝากให้ติดตามกันในอนาคตเร็ว ๆ นี้ด้วยครับ
Image supplied
ตามไปลองร้านของคุณบอมบ์ได้ที่
Mamao Thai Restaurant : facebook.com/mamao.melbourne
Khaosoi Melbourne : facebook.com/khaosoi.melbourne
บทความอื่น ๆ
สนใจถ่ายรูปอาหาร โปรดักส์สินค้า หรือทำการตลาด ติดต่อได้ที่
Facebook: www.facebook.com/TheNontouch
Instagram: www.instagram.com/the.nontouch
Email: thenontouch@gmail.com
Sydney, Melbourne, Brisbane, Gold Coast, Sunshine Coast, Adelaide, Canberra