Rebranding กันไปทำไม? เมื่อแบรนด์ใหญ่พากันเปลี่ยนโลโก้ให้เรียบง่ายขึ้น

ก่อนหน้านี้สังเกตได้ว่าโลโก้แบบเก่า ๆ มักจะเป็นแนวแบบ 3D สามมิติ มีแสงเงา ทำให้รู้สึกเหมือนผ่านการคิดมาเยอะ ใช้หลายเทคนิคในกระบวนการออกแบบจนออกมาเป็นโลโก้ที่สวยงามเตะตา

แล้วทำไมจู่ ๆ แบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ก็พร้อมใจพากันปรับโลโก้ให้มินิมอล แล้วโลโก้แบบมินิมอลนี่มันดียังไง ?

ลองมาดูตัวอย่างกันก่อนครับว่า แบรนด์ใหญ่ ๆ ในออสเตรเลียแบรนด์ไหนมีการ Rebranding Logo ให้มินิมอลบ้าง


บางแบรนด์เปลี่ยนโลโก้แค่นิดเดียว จนเราในฐานะลูกค้ายังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ (อย่าง NAB ก็แค่เอาเงาบนดาวออก) แล้วเค้าจะทำไปทำไมกัน

ครอบคลุมทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเธอต้องจำฉันได้

ยุคก่อนเราอาจจะใช้โลโก้แค่ปริ้นป้ายหน้าร้าน หรืออยู่บนหน้าเมนูอาหาร แต่ทุกวันนี้โลโก้นั้นแทบจะโผล่ไปทุกช่องทางของ Social Media Account ทั้ง เฟสบุ๊ค ยูทูป ติ๊กตอก หรือไปอยู่บนวีดีโอ โซเชียลมีเดีย ใบปลิว หรือแม้กระทั่งเป็นสปอนเซอร์งานบนโปสเตอร์ ที่ต้องไปเบียดอัดอยู่กับคู่แข่ง บางทีถูกย่อให้เล็กเหลือนิดเดียว จนแทบจำไม่ได้ว่านั้นคือโลโก้ของร้านด้วยซ้ำ

ทีนี้ การปรับโลโก้ให้มินิมอลลงนั้น จะต้องมีการคำนึงถึงการออกแบบที่ไม่ว่าจะไปอยู่บนช่องทางไหน โลโก้ก็ยังทำให้ผู้มองเห็นนึกถึงแบรนด์ของเราอยู่ดี ตัวอย่างเช่น เมื่อนึกถึงตัวอักษร M สีเหลือง ทุกคนก็จะนึกถึง McDonald’s เท่านั้น

ซึ่งข้อดีของ Logo แบบ 2D คือจะทำให้ลูกค้าของเราจดจำได้ง่าย ลองคิดตามง่าย ๆ ว่า คุณจำโลโก้ Starbucks ได้มั้ย หากให้วาดออกมาคงจำไม่ได้ แต่ถ้าเห็นเงือกสีเขียว ๆ เมื่อไหร่ เรารู้ทันทีว่านั่นคือ Starbucks ดังนั้นการออกแบบโลโก้จึงไม่ใช่เพียงแค่ดีไซน์ให้เรียบง่าย แต่มันคือการส่งสารจากร้านไปถึงลูกค้า

โลโก้ก็เหมือนแฟชั่น ที่เทรนด์มีการอัพเดทตลอดเวลา

เปรียบโลโก้เป็นเหมือนแฟชั่น เราก็คงไม่แต่งตัวสไตล์เดิมตลอดไปเหมือนกัน การปรับโลโก้ให้ทันยุคสมัยก็เป็นการพัฒนาแบรนด์ของเราอย่างหนึ่งเช่นกัน

ดูตัวอย่างจากการพัฒนาโลโก้ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple กว่าจะลดทอนมาถึงปัจจุบันต้องปรับกันไปตั้งหลาย Version ลองสังเกตว่า ในปี 1998-2000 Apple ได้เคยทำ Logo แบบ 2D มาแล้ว ก่อนที่จะกลับมาเป็น 3D ในปี 2001 และ กลับไปเป็น 2D อีกครั้งในปัจจุบัน



การปรับโลโก้ให้ตามยุคสมัยนั้น มันไม่ใช่แค่ความสวยงาม หรือเพราะเห็นเค้าทำกัน ฉันเลยทำบ้าง แต่มันเป็นการปรับตัวตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพราะความคิดของลูกค้าเราก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เช่นกัน ถึงแม้ว่ายุคนี้จะเป็นยุคของ 2D แต่ 3D อาจจะกลับมาอีกครั้งในอนาคตก็ได้

แล้วโลโก้แบรนด์หรือธุรกิจของเราละ?

จากปรากฏการณ์นี้ เราสามารถนำมาปรับใช้กับแบรนด์ของเราได้อย่างไรบ้าง

ถึงแม้เราจะเป็นแบรนด์เล็ก ๆ แต่เราสามารถนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ อาจจะเริ่มจากลองสำรวจดูว่าโลโก้ของเรานั้น ถ้ามองในมุมลูกค้าดูเก่าเกินไปมั้ย เอาไปใช้งานยากรึเปล่า หรือเมื่อลองย่อขนาดให้เล็กลงแล้ว เรายังมองเห็นโลโก้ของเราอยู่รึเปล่า

การปรับตัวให้ทันโลกเป็นสิ่งสำคัญ ในเมื่อมีร้านอาหารเกิดใหม่ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นทุกวัน การสร้างความจดจำ ทำให้ลูกค้านึกถึง และอยากกลับมาหาเรา เป็นสิ่งที่ทำให้เราจะอยู่ไปทุกยุคทุกสมัย 😄


บทความอื่น ๆ


สนใจถ่ายรูปอาหาร โปรดักส์สินค้า หรือทำการตลาด ติดต่อได้ที่

Facebook: www.facebook.com/TheNontouch
Instagram: www.instagram.com/the.nontouch
Email: thenontouch@gmail.com

Sydney, Melbourne, Brisbane, Gold Coast, Sunshine Coast, Adelaide, Canberra

Previous
Previous

ภาพผลงานการถ่ายรูปให้กับร้าน Nahm Breakfast

Next
Next

Promotion ร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องลดราคาเสมอไป