จากขอนแก่นสู่ซิดนีย์: Mongni Cafe ชานมไข่มุกสายเลือดอีสานกับสาขาแรกที่ออสเตรเลีย
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ชานมไข่มุกที่เป็นวัฒนธรรมร่วมของชาวเอเชีย ได้แผ่ขยายสู่ตลาดออสเตรเลีย
ไม่ว่าจะหันไปมุมไหน ร้านชานมไข่มุกหลากหลายแบรนด์ก็ตั้งเรียงรายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะทั้งร้านจากแดนมังกร อย่าง Mixue หรือ ร้านชานมไต้หวันที่มาตั้งรกรากก่อนใครอย่าง Gong Cha
คราวนี้ถึงคราวชานมไทยกระโดดเข้าสู่ตลาดในออสเตรเลียบ้างแล้ว หากใครได้เดินไปเดินมาแถวโซน Pitt st ซิดนีย์ อาจจะได้เห็นร้านชานมสีสันสดใส กับโลโก้แก้วตากลมโต Mongni ร้านชานมสายเลือดอีสานที่ขอโกอินเตอร์ มาไกลถึงซิดนีย์ จากต้นกำเนิดจากความชอบของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสองคน ทั้งคุณแขก - ต้นตำรับแฟรนไชส์ และคุณต่าย - เจ้าของสาขาออสเตรเลีย
จุดเริ่มต้นของ Mongni cafe
นายอภิชัย ศิริสม หรือ คุณแขก อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของแฟรนไชส์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ หม่องนี่ คาเฟ่ (Mongni Café) ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์หม่องนี่ คาเฟ่ เริ่มก่อตั้งช่วงปี 2018 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในช่วงนั้นชานมไข่มุกกำลังเป็นกระแส และเป็นที่นิยมของกลุ่มลูกค้าในประเทศ ซึ่งมี คุณพัชรี น้องสาวของคุณแขก เป็นคนคิดค้นสูตร และเปิดสาขาแรกในย่านกังสะดาน ตึกแถวเล็ก ๆ หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ด้วยที่ชานมไข่มุกกำลังเป็นกระแส ทำให้ร้านขายดีมาก จนมีคนมาติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ โดยกลุ่มคนแรก ๆ ที่มาซื้อก็เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการหน้าร้าน ทางคุณแขก เลยเริ่มคิดค้นโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ขึ้นมา และขยายธุรกิจสาขาที่ 2 จนปัจจุบันนี้ ก้าวมาถึง 112 สาขา และสาขาล่าสุดก็อยู่ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
แรงบันดาลใจของ Mongni Cafe
ช่วงเริ่มสร้างแบรนด์ สร้างตัวตนของ Mongni Cafe ช่วงแรก ๆ เรามีแรงบันดาลใจที่อยากจะให้ลูกค้าได้ลิ้มลองความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร คือความอร่อยของไข่มุกลาวา และอยากสร้างให้ภาษาอีสานของเราเป็นที่รู้จัก และสามารถพูดได้แบบไม่อายใครว่านี่คือภาษาถิ่นของบ้านเรา ที่มีต้นกำเนิดมาจาก จ.ขอนแก่น จึงใช้ชื่อภาษาถิ่นอีสานว่า “หม่องนี่” ที่แปลว่า “ที่นี่” หรือ “ที่ตรงนี้” พอเราเขียนเป็นภาษาอังกฤษ “Mongni Cafe” มันก็ดูเก๋ ดูทันสมัย และพอออกเสียงคำเรียกขานมันก็ดูอินเตอร์ไปอีกแบบ เป็นการสร้างภาพจำของแบรนด์ที่ดี และเป็นความภูมิใจเพราะมันคือ “ภาษาถิ่น” ของอีสานบ้านเรา
คิดว่าอะไรคือจุดเด่นของ Mongni Café ที่แตกต่างจากร้านชานมไข่มุก
จุดเด่นของหม่องนี่ คาเฟ่ เราแยกออกเป็น 2 ข้อ จุดเด่นแรกเลย คือ สูตร เครื่องดื่มทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ความอร่อย และจุดเด่นหลักของเรา คือ ไข่มุกลาวา เพราะมีสูตรลับในการต้มไข่มุก มีสูตรกรรมวิธีและวิธีการทำที่ซับซ้อน ถือเป็นสูตรลับ ไม้ตาย ของเรา
จุดเด่นที่ 2 คือการตกแต่งร้านของแต่ละสาขา ที่พิถีพิถันในการออกแบบ และคัดเลือกวัสดุ ให้เป็นจุดถ่ายรูป แต่ละสาขาจะมีดีไซน์ที่แตกต่างกันไป และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ยังคงความเป็นหม่องนี่คาเฟ่ไว้อยู่
อยากให้เล่าความยากในการจัดการแบรนด์ในรูปแบบแฟรนไชส์ มีอะไรที่ต้องดูแลบ้าง
ความยากในการจัดการแฟรนไชส์ที่มีหลายสาขา คือ เรื่องการดูแลลูกค้า การรักษาคุณภาพของสินค้า การตรวจสอบวัตถุดิบ เมื่อสาขาเยอะขึ้น การเดินทางก็ลำบากมากขึ้น เพราะมีระยะทางที่ไกล จึงเป็นอุปสรรคในการเดินทางตรวจสอบคุณภาพของแต่ละสาขา
เรื่องของรสชาติ การทำให้รสชาติเหมือนกันทุกสาขา จะต้องใช้วัตถุดิบและสูตรเดียวกัน บางสาขาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนสูตรเองนอกเหนือสัญญา ทำให้รสชาติไม่เหมือนกัน เราจึงมีการตรวจสอบอยู่เสมอ โดยมีทีมแผนกตรวจสอบภายใน หรือที่เรียกว่าแผนก Audit เพื่อวัตถุประสงค์ให้รสชาติอร่อยเหมือนกับต้นฉบับ ไม่ผิดเพี้ยน คงคุณภาพ ถึงมือลูกค้าเหมือนกันทุกสาขา
อะไรคือจุดเริ่มต้นของการขยายแฟรนไชส์ไปที่ซิดนีย์
จุดเริ่มต้นของการขยายแฟรนไชส์ไปที่เมืองซิดนีย์ คือ เราเริ่มมองช่องทางการขยายตลาดใหม่ ๆ เพราะพื้นที่ใหม่ ยังไม่มีสินค้าชนิดเดียวกัน เป็นการแข่งขันที่ยังน้อยอยู่ พอเราได้รับโอกาสได้ไปเปิดสาขาที่ซิดนีย์ โดยการขายแฟรนไชส์ เราจึงตอบรับข้อเสนอนั้นทันที บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่เกินฝันมาก เราเริ่มหาข้อตกลงร่วมกันเพื่อที่จะเปิดตลาดใหม่ ๆ
แล้ววางแผนมองหาการขยายแฟรนไชส์ที่อื่นด้วยไหม?
เรามีการวางแผนขยายแฟรนไชส์ หม่องนี่ คาเฟ่ อีก จึงคิดโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “Mongni go café” หรือ “หม่องนี่ โก คาเฟ่”
เป็นแฟรนไชส์ขนาดเล็กที่รวมตู้คีออส (Kiosk) พร้อมขาย ราคา 359,000 บาท เป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ เป็นการหากลุ่มลูกค้าในตำแหน่งใหม่ๆ แต่ แฟรนไชส์ “Mongni Café” (Full Size) ก็ยังคงจำหน่ายเหมือนเดิม ในตลาดต่างประเทศเรามีสาขาที่ 1 อยู่ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าจะมีสาขาต่อ ๆ ไปในอนาคต
Mongni go Café แฟรนไชส์ไซส์เล็ก แผนการตลาดจะมีการขยายธุรกิจออกมาจากส่วนกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มต้นในปี 2568 เพราะในกรุงเทพฯ มีประชากรที่หนาแน่นกว่า เราคาดหมายว่าจะประสบความสำเร็จในกรุงเทพฯ ส่วนตลาดอาเซียน หรือประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา ฯลฯ ถ้ามีลูกค้าให้โอกาสหรือสนใจก็สามารถติดต่อเข้ามาเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ได้เลย เพราะอยากให้คนทั้งโลกได้รับประสบการณ์ Mongni Café แบรนด์เล็ก ๆ จากอีสาน ประเทศไทย ให้ต่างประเทศได้นำไปประกอบอาชีพ เป็นความภาคภูมิใจของเรา ของทีม ของคนอีสาน และของคนไทย
มอง Mongni Café ในอีก 5 ปีไว้อย่างไร
ธุรกิจชานมไข่มุก เป็นธุรกิจที่ยังมีช่องทางในการขายค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นธุรกิจที่เข้ากับภูมิอากาศของประเทศไทย หรือประเทศที่เป็นพื้นที่เขตร้อน ฉะนั้นการขยายธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า คือการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
การนำเสนอตัวแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook Tiktok Instagram ฯลฯ เพราะตอนนี้ หม่องนี่ คาเฟ่ ยังไม่เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์เท่าไรนัก ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักแบรนด์เราผ่านจากปากต่อปาก ซึ่งในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า คาดหวังว่าจะสามารถทำให้ทุกคนรู้จักแบรนด์เราผ่านโลกออนไลน์ได้มากขึ้น
มีคำแนะนำอะไรไหม กับคนที่กำลังเริ่มต้นสร้างแบรนด์สร้างธุรกิจ
สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นสร้างแบรนด์ หรือธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ หรือธุรกิจอะไร อยากให้โฟกัสเรื่องสินค้าก่อนเป็นอันดับแรก เพระถ้ามีสินค้าแล้ว แต่คุณภาพสินค้าไม่ดี ไม่อร่อย ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า สินค้านั้นจะไม่สามารถไปต่อได้เลย เพราะฉะนั้นลองมองที่สินค้าของเราก่อน ว่ามีสินค้าที่ดีพอที่จะให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำหรือยังถ้าสินค้าดีต่อไปจะเป็นเรื่องของการทำตลาด ไม่ว่าจะเป็นการขายออฟไลน์ หน้าร้าน หรือเรียนรู้เรื่องของการทำตลาดออนไลน์
รวมถึงการทำการต่อยอดทำเครือข่ายแฟรนไชส์ในอนาคต เป็นอีกหนึ่งช่องที่เราสามารถกระจายสินค้าออกไปสู่โลกภายนอกได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบแฟรนไชส์ และต้องศึกษาหาความรู้ด้านการตลาดในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีคอร์สอบรมการเรียนการสอนให้เราไปได้ถูกทาง เพื่อหาทางลัด หาท่าไม้ตาย ของเราให้เจอ จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง
ฝาก Mongni Café กับทุกคน
เราขอฝากแบรนด์ไทย จากอีสาน จากจังหวัดขอนแก่น ที่มีชื่อเป็นภาษาถิ่น “หม่องนี่ คาเฟ่” เป็นสินค้าของคนไทย ที่อยากก้าวไกลไปสู่ระดับโลก อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติ และสัมผัสบรรยากาศของ หม่องนี่ คาเฟ่ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมในระยะเวลาสั้น ๆ แบรนด์เล็กๆ จากอีสาน ถึงมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ คำตอบอาจจะรอคุณอยู่ที่ “หม่องนี่” ( Mongni Café )
นอกจากนี้ ทีมงานเดอะนนทัชยังได้มีโอกาสคุยกับคุณต่าย เจ้าของร้านสาขา Sydney อีกด้วยครับ
แนะนำตัวหน่อยครับ
สวัสดีค่ะ พี่ต่ายนะคะ พี่เป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด มาอยู่ที่ออสเตรเลียเมื่อปี 2020 ตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่าจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แค่มาเที่ยวเฉย ๆ แต่พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด แล้วโดนล็อกดาวน์ทำให้กลับไทยไม่ได้ ก็เลยได้เบนเข็มชีวิตของตัวเองมาอาศัยอยู่ที่นี่ค่ะ
อยากให้เล่าจุดเริ่มต้น ทำไมถึงเลือกนำแบรนด์ Mongni มาเปิดที่ซิดนีย์
เป็นความชอบส่วนตัวโดยตรงค่ะ คือเป็นคนชอบทานชานมไข่มุกอยู่แล้ว และมีโอกาสได้ลองกินของหลาย ๆ แบรนด์ ก็ไม่รู้สึกว่าประทับใจจนกระทั่งได้มารู้จักแบรนด์นี้เมื่อปี 2019
ครั้งแรกที่ได้ลองก็ประทับใจกับไข่มุกที่ไม่เหมือนของแบรนด์อื่น ที่สำคัญก็คือเป็นแบรนด์ของคนไทย แล้วก็ยังเป็นคนอีสานเหมือนกันกับพี่อีก ตอนนั้นก็ประทับใจมากถึงกับติดต่อขอทำแฟรนไชส์เลย แต่ว่าในปีนั้นเขาให้โควตาแค่ 1 สาขาใน 1 จังหวัด ทำให้พลาดโอกาสไปเพราะในจังหวัดที่เรากะว่าจะลงมีเปิดไปแล้ว
ทำไมเลือกที่จะเปิดแฟรนไชส์แทนที่เปิดร้านแบรนด์ใหม่ หรือแบรนด์อื่น
เพราะว่ามันเป็นธุรกิจที่เริ่มจากความชอบค่ะ อยากให้คนที่นี่ได้ลองกินในสิ่งที่เราชอบ ส่วนคนไทยที่ชอบแบรนด์นี้อยู่แล้วก็จะได้หาซื้อได้จากที่นี่เลย แล้วก็เป็นโอกาสดีที่จะสนับสนุนธุรกิจของคนไทยด้วยกันให้ไปถึงต่างประเทศด้วยค่ะ
อยากให้เล่าขั้นตอนและความยากง่ายในการนำแบรนด์ไทยเข้ามาเปิดที่ออสเตรเลีย
โห ตอนติดต่อแบรนด์ไม่ยากเลยค่ะ เพราะเขาก็ทำแฟรนไชส์อยู่แล้ว แล้วก็มีแพลนจะตีตลาดต่างประเทศเหมือนกัน พอดีกับที่เราติดต่อทางบริษัทไปว่าสนใจ ทางนั้นก็ยินดีและพร้อมจะให้โอกาส แต่ความยากมันอยู่ที่หนึ่งเลยคือพี่ไม่ได้เรียนด้านธุรกิจหรือการตลาด พี่อาศัยแค่ความชอบ ความหลงใหลในความแปลกใหม่ของเครื่องดื่มแบรนด์นี้ และมันคือก้าวแรกทั้งของทางเราและทางแบรนด์
นี่เป็นสาขาต่างประเทศสาขาแรกเลยนะคะ พวกเราก็ยังไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายหรือขั้นตอนการเปิดร้านในออสเตรเลีย ก็คิดแค่ว่าคงจะหาแค่เช่าที่ ตกแต่ง แล้วก็เปิดร้านได้เลย แต่ในความเป็นจริงมีขั้นตอนการดำเนินการหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องเอกสารขออนุญาตต่าง ๆ ซึ่งก็ทำให้ท้อมากเหมือนกัน เราทำเรื่องขออนุญาตไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 แต่เพิ่งได้รับใบอนุญาตตกแต่งร้านช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2024 ในระหว่างรอเราวางแผนการดำเนินงานมาตลอด พอได้รับใบอนุญาตก็รีบตกแต่งทันที ด้วยความที่เราอยากรีบเปิดร้านเร็ว ๆ ทำให้มีความไม่พร้อมหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะสินค้าบางตัวที่ส่งมาจากเมืองไทยไม่ได้ เราก็ต้องหาวัตถุดิบของที่นี่ที่ทดแทนกันได้ ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางแบรนด์ที่อนุญาตให้เราทดลองสูตร และหาวัตถุดิบของที่นี่มาแทนได้ค่ะ
แล้ว Mongni cafe ที่ซิดนีย์มีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นอย่างไรบ้าง
ถ้าเป็นความแตกต่างจากร้านเครื่องดื่มประเภทเดียวกันในซิดนีย์ ก็คงจะเป็นไข่มุกลาวาที่หอม หวาน นุ่ม และที่สำคัญคือความหวานของเครื่องดื่มจะมาจากไข่มุกนะคะ ไม่มีความหวานจากตัวเครื่องดื่มเลย
รับรองว่าไม่เหมือนของแบรนด์อื่นค่ะ รวมถึงบรรยากาศในร้านที่พี่อยากให้เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง พนักงานของพี่ทุกคนก็ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ดูแลลูกค้าด้วยใจไม่ใช่ด้วยหน้าที่
อยากให้แนะนำเมนูที่ต้องลอง
ต้องลองทุกเมนูค่ะ แต่ที่ทุกคนน่าจะชอบก็คงต้องเป็นเมนู signature ของเรา นมฮอกไกโดไข่มุกลาวาค่ะ จุดขายของแบรนด์นี้เลยก็คือไข่มุกค่ะ ต้องลองเลย หรือว่าจะเป็นนมเผือกที่ใช้เผือกสด ๆ มากวนใส่เป็นท้อปปิ้งก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ
ช่วยให้คำแนะนำสำหรับคนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจที่ออสเตรเลีย
พี่เองก็ใหม่มาก ๆ สำหรับวงการนี้ เพราะฉะนั้นก็คงแนะนำอะไรมากไม่ได้ ก็อยากแนะนำแค่ว่าถ้าสนใจอยากเริ่มต้นทำธุรกิจที่นี่ ก็ต้องศึกษาข้อมูล อาจจะลองปรึกษาพี่ ๆ คนไทยที่มีประสบการณ์ค่ะ อย่างพี่เองก็ได้รับคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์มาบ้างเหมือนกัน
อยากให้แนะนำคนไทย ที่อยากนำแบรนด์ไทยมาเปิดที่นี่ต้องทำอย่างไรบ้าง
อย่างแรกก็คงต้องปรึกษาเจ้าของแบรนด์นะคะ แล้วก็หาข้อมูลกฎหมายของที่นี่ด้วย ที่สำคัญเลยก็คือต้องศึกษาข้อมูลเยอะ ๆ ค่ะ จะเปิดร้านที่นี่มีอะไรให้คิดเยอะกว่าที่ไทยมาก ๆ
นอกจาก Mongni cafe มีแพลนเปิดอย่างอื่นเพิ่มไหม
มีค่ะ มีแพลนเปิดเป็นโซนเครื่องดื่มร้อน เน้นเป็นชาจากประเทศจีน เป็นความตั้งใจของลูกสาวค่ะ เขาอยากทำร้านชา slow bar ที่เสิร์ฟเซ็ตชากับขนมอะไรแบบนี้น่ะค่ะ อยากให้รอติดตามนะคะ
ให้ฝากร้าน Mongni cafe ซิดนีย์ หน่อยครับ
ก็ขอฝากร้าน Mongni cafe สาขาแรกในต่างประเทศร้านนี้ด้วยนะคะ
เพราะว่าเรายังใหม่กันมากอาจจะมีอะไรที่ยังไม่ลงตัวหรือมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ทั้งเรื่องวัตถุดิบหรือการจัดการอะไรหลายอย่าง ต้องขออภัยคุณลูกค้าก่อนเลย แต่พวกเราก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ และจะทำให้ดีเพื่อนำเสนอสิ่งที่เราชื่นชอบให้กับทุก ๆ คน
พี่กล้ายืนยันและการันตีได้เลยว่าเราใส่ใจในทุกกระบวนการผลิตและพยายามรักษาคุณภาพของสินค้า ทั้งไข่มุกที่ใช้เวลาทำกว่า 4 ชั่วโมงต่อครั้ง หรือว่าท้อปปิ้งอื่น ๆ ที่ใส่ใจทุกขั้นตอน หวังว่าลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการจะรับรู้ เปิดใจและให้โอกาสแบรนด์ชานมไข่มุก Mongni cafe ค่ะ
—
ชาวซิดนีย์ท่านไหนได้ไปลิ้มลองมาแล้ว อย่าลืมมารีวิวกันนะครับ
บทความอื่น ๆ
สนใจถ่ายรูปอาหาร โปรดักส์สินค้า หรือทำการตลาด ติดต่อได้ที่
Facebook: www.facebook.com/TheNontouch
Instagram: www.instagram.com/the.nontouch
Email: thenontouch@gmail.com
Sydney, Melbourne, Brisbane, Gold Coast, Sunshine Coast, Adelaide, Canberra