ลองผิดลองถูก สู่นักเรียนคราฟต์เบียร์คนไทยในออสเตรเลีย

Image Supplied

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีเบียร์หลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใหญ่ หรือโรงเบียร์เล็ก ๆ ที่ทำกันในครอบครัว

ส่วนใหญ่ก็เกิดมาจากความชอบส่วนตัว เช่นเดียวกับคุณเนยและสามี ที่มีความสนใจในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มจากการศึกษาด้วยตัวเอง จนพากันจับมือไปลงเรียนหลักสูตรทำเบียร์อย่างมืออาชีพที่ TAFE QLD พร้อมกับความฝันที่อยากมีโรงเบียร์รสชาติไทยเป็นของตัวเอง

1.อยากให้แนะนำตัวหน่อยครับ

สวัสดีคะ ชื่อเนยคะ อายุ 28 ปี อยู่ออสเตรเลียมาเข้าปีที่ 10 แล้วค่ะ

2.ทำไมถึงเลือกมาอยู่ที่ออสเตรเลียและ มาเพราะอะไร

ที่เลือกมาที่นี่เพราะ แฟนเป็นคนออสซี่ แล้วก็อยากมาเรียนภาษาด้วย พอมีลูกก็คิดว่าน่าจะอยู่ที่ออสเตรเลียถาวรแล้วละ เพราะสวัสดิการที่นี่ดีกว่าที่ไทย

Image Supplied

3.ก่อนหน้านี้เคยทำอะไรมาบ้างครับ

เคยทำงานในครัวมาก่อนเป็น Kitchen hand แล้วก็เคยเป็นพนักงานนวดในร้านนวดไทยแล้วก็เป็น Reception ค่ะ

4.รู้ตัวหรือเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับเบียร์ตอนไหน ?

ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวไม่ใช่คนที่ชอบดื่ม ก่อนหน้านี้ 4 ปีที่แล้ว สามีทำเหล้าแล้วก็วอดก้าดื่มเอง ก่อนทำสามีเขาศึกษามาสักพักแล้ว แต่ทำเหล้ามันต้องใช้เวลานานมาก ๆ บางครั้งต้องหมักในถัง Barrel 6 เดือน ถึง 1 ปี ก็เลยคิดว่าไม่น่าจะเวิร์ค

ในขณะเดียวกันสามีเนยเป็นคนที่ชอบดื่มเบียร์ก็เลยสนใจเรื่องทำเบียร์ เพราะเบียร์หมักไม่นานก็ดื่มได้ แต่การทำเบียร์มันมีอะไรหลายขั้นตอนมาก เราก็ซื้อหนังสือมานั่งอ่าน ดูยูทูปบ้าง แล้วสักพักก็เริ่มซื้ออุปกรณ์มาทำเบียร์เองที่บ้าน มีทั้งอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้างสลับกันไป ก็เลยคิดว่าทำยังไงถึงจะทำเบียร์อร่อย จนเป็นที่มาว่าอยากจะเปิดโรงเบียร์เป็นของตัวเอง ซึ่งตรงนี้แหละเป็นจุดที่น่าสนใจทำให้เนยและสามีเข้ามาสมัครเรียนที่ TAFE คะ

Image Supplied

5.เล่าให้ฟังหน่อยว่า การเรียนทำเบียร์ เค้าสอนเกี่ยวกับอะไร หลักสูตรกี่ปี และต้องใช้การสอบหรือ Qualification อะไรบ้าง ?

ที่ TAFE จะมีหลักสูตรสอน 6 เดือนสำหรับ Full-time และ 1 ปีสำหรับ Part-time ค่ะ ของเนยเรียนแบบ Full-time 6 เดือนจะมี 2 เทอม

เทอมแรกเราก็จะเรียนระบบเล็ก ๆ ให้พอเห็นภาพว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างก่อนที่จะไปเจอระบบใหญ่ ๆ คุณครูจะมีอุปกรณ์ให้ทุกอย่าง สอนทุกขั้นตอนตั้งแต่ วัดค่า Ph และ Gravity ของน้ำก่อนเราจะนำมาต้มเตรียมพร้อมสำหรับทำเบียร์ รวมไปถึงการตรวจวัดค่าสี ค่าความขม, ค่า OG และ FG การนับยีสในเบียร์ และ เอายีสที่ใช้ไปแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ สอนการบ่มเบียร์ ต้ม หมัก ในถังเล็ก ๆ ก่อน ตลอดถึงการบรรจุลง Keg ค่ะ

ส่วนเทอม 2 จะเป็นภาคปฏิบัติ เราจะใช้ระบบที่ใหญ่ขึ้นในการทำเบียร์ อุปกรณ์ก็จะเข้มงวดกว่าเทอมแรก ที่นี่จะใช้ห้องแลปจริง ๆ เครื่องตรวจสอบหาค่าต่าง ๆ จะใช้เครื่องที่ได้รับมาตราฐานเท่านั้น เพิ่มเติมเทอม 2 จะมีการสอนการบรรจุลงกระป๋องเบียร์ โดยใช้เครื่องบรรจุกระป๋องขนาดใหญ่ที่โรงเบียร์จริง ๆ ใช้กัน

การสมัครเรียนมีแค่

  • ต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป

  • จบม.6 หรือ Year 12

  • พูดและเข้าใจภาษาอังกฤษระดับปานกลาง

สำหรับการเข้าเรียนคอร์สทำเบียร์ไม่มีการสอบเข้าคะ

6.ส่วนใหญ่คนที่มาเรียนเค้าเป็นใครกัน

ส่วนใหญ่ที่เรียนจะเป็นคนที่ชอบทำเบียร์เองที่บ้าน (Homebrewer) แล้วก็คนที่อยากทำงานด้านนี้ เช่น เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่แล้วแต่อยากเรียนทำเบียร์ จะได้รู้วิธีการเช็คอุณภูมิเบียร์ หรือเปลี่ยนถังเบียร์คะ

Image Supplied

7.ตลาดเบียร์ในออสมันเป็นยังไง คนชอบกินแบบไหน

การตลาดอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มที่ออสเตรเลีย มีการขยายและเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี สำหรับโรงเบียร์ที่เปิดใหม่ก็มีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี คนที่นี่จะนิยมดื่มไวน์เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาจะเป็นเบียร์ แล้วก็สุดท้ายจะเป็นเหล้า เรื่องรสชาติเบียร์ที่คนชอบดื่มจะเป็นเบียร์ที่มีค่าแอลกอฮอล์ต่ำดื่มง่าย ๆ ไม่เน้นเมา เช่น Pale Ale และ Lager ค่ะ

8.คนที่เรียนจบด้านนี้ ออกไปทำอะไรกัน

จบไปแล้วก็สามารถสมัครเป็น Brewer ในโรงเบียร์ได้ หรือไม่ก็เป็นผู้ช่วย Head brewer หรือทำงานในห้องแลป ในโรงเบียร์แล้วก็สามารถเรียนต่อไปเป็น Head brewer ได้ หรือถ้ามีประสบการณ์มากพอก็เปิดโรงเบียร์เป็นของตัวเองได้ค่ะ

Image Supplied

9.สำหรับคนที่สนใจอยากเรียนด้านนี้ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลยค่ะ ขอแค่ใจรักในการอยากเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยากเจอเพื่อนใหม่ ๆ อยากเข้ามาเรียนรู้กับคนในวงการคราฟต์เบียร์

แล้วก็อาจจะต้องเข้าใจภาษาอังกฤษระดับกลาง เพราะในคลาสเราไม่ได้แค่ฟังผ่าน ๆ แต่เราต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมห้อง และต้องเป็นคนดูแลอุปกรณ์ทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่สามารถพึ่งคนอื่นได้

คุณครูจะสอนให้เราทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะในโลกความเป็นจริง การต้มเบียร์ใช้ถังหมัก และต้ม 1,000 - 20,000 ลิตร ถ้าทำไม่รอบคอบ เบียร์จะติดเชื้อได้ซึ่งต้องทิ้ง ทำให้เสียรายได้ และสิ้นเปลือง หรือการใช้อุปกรณ์ไม่รอบคอบอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้คะ

10. แผนในอนาคตของ Peak City Brewing

ในอนาคตเนยจะกำลังจะเปิดโรงเบียร์และโรงผลิตสปีริตที่เจ้าของเป็นคนไทยคนแรกในออสเตรเลีย และ เป็นโรงเบียร์ที่ซัพพอร์ตทหาร, ตำรวจ และ First Responders ทุกหน่วยในออสเตรเลียที่แรกด้วยคะ

ในโรงเบียร์ก็จะมี Thai Street food แล้วก็อาจจะมี Seafood Bar ตั้งอยู่ข้างในโรงเบียร์ด้วยค่ะ ที่สำคัญตอนนี้เนยและสามีกำลังคิดสูตรทำเบียร์รสชาติไทย ให้คนออสซี่ได้ลอง “อาหารไทย Street food คนทั่วโลกรู้จักแล้ว แต่ยังขาดเบียร์คราฟต์รสชาติไทยอยู่” ก็เลยมีไอเดียนี้ขึ้นมา

อยากฝากไปถึงคนไทยในออสเตรเลีย ถ้านึกถึงเบียร์คราฟต์อร่อย ๆ สด ๆ หลายรสชาติ ต้องมาลองที่โรงเบียร์ของเนยคะ รับรองไม่ผิดหวัง เราจะมีโปรจับคู่เบียร์ขายคู่กับแกล้มด้วยคะ ฟินแน่ งานนี้


บทความอื่น ๆ


สนใจถ่ายรูปอาหาร โปรดักส์สินค้า หรือทำการตลาด ติดต่อได้ที่

Facebook: www.facebook.com/TheNontouch
Instagram: www.instagram.com/the.nontouch
Email: thenontouch@gmail.com

Sydney, Melbourne, Brisbane, Gold Coast, Sunshine Coast, Adelaide, Canberra

Previous
Previous

Nahm Group ผู้ยกระดับอาหารไทยใน Gold Coast สู่ความสำเร็จกับร้านอาหารในเครือกว่า 7 ร้าน

Next
Next

วัตถุดิบจาก Asia กลายเป็นเทรนด์ในปี 2024